March 30, 2010

ค่ำคืนอันแสนเหงา

   เสียงฝนกระหน่ำลงมาอย่างไม่หยุดยั้ง แสงสว่างวาบมาเป็นระยะๆ ตามด้วยเสียงฟ้าร้องคำรามครืนๆ ไม่ขาดสาย เสียงเหล่านี้ได้เล็ดลอดผ่านมาตามช่องหน้าต่าง ประตู กำแพง และหลังคา ซึ่งทำให้มันสะท้อนกึกก้องไปทั่วทั้งโสตประสาทและสั่นสะท้านไปถึงหัวใจ อาจเป็นเพราะอากาศที่เริ่มจะหนาวเย็นด้วยกระมัง
   ผมได้แต่คิดปลอบใจตัวเองว่า เป็นเพราะอากาศเย็นกับสายฝน จึงทำให้การอยู่คนเดียวแปรเปลี่ยนมาเป็นความเงียบเหงา การอยู่คนเดียวก็ตีความได้หลายอย่าง เช่น อยู่คนเดียวแบบเป็นส่วนตัว อยู่คนเดียวแบบเป็นโสด อยู่คนเดียวแบบห่างไกลเพื้อนพ้องมิตรสหายและพ่อแม่พี่น้อง และการอยู่คนเดียวจริงๆ ความเหงาที่เกิดจากการอยู่คนเดียวแต่ละแบบก็แตกต่างกันออกไป แต่การอยู่คนเดียวของผมนั้น กินความทุกรูปแบบที่กล่าวมาทั้งหมด

__________

   ผมเคยคิดและรู้สึกว่า ผมชินกับการอยู่คนเดียวจนถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา จนกระทั่งคืนนี้ ความเหงาที่ผมไม่เคยคิดว่าจะต้องมาพบกันอีกก็กลับมาหา
   ผมเป็นคนรักสันโดษโดยสันดาน จึงคิดว่าถ้าอยู่คนเดียวน่าจะมีความสุขกว่า โดยไม่เกี่ยงว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหน ขอแค่ได้อยู่คนเดียวเป็นพอ แล้วโอกาสนั้นก็มาถึง ผมได้แล้วทำงานเป็นคนรับ-ส่งข้อมูลทางวิทยุกลางป่าบนเทือกเขาสูง ผมทำหน้าที่แค่รับข้อมูลมาแล้วส่งต่อไปยังอีกฟากหนึ่งของภูเขา สถานีที่ผมประจำอยู่เป็นสถานีเล็กๆ ที่ใช้คนดูแลและทำงานเพียงคนเดียวก็เกินพอ จะมีเสบียงส่งมาให้ทุกๆ 10 วัน ส่วนใหญ่จะมีคนขับรถโฟร์วีลมาส่งให้ นานๆ ทีก็จะเป็นการส่งทางเฮลิคอปเตอร์ ผมอยากให้เขาส่งมาทางเฮลิคอปเตอร์ทุกครั้งด้วยซ้ำไป เพราะว่าพวกที่ขับรถมาส่งนั้น ปกติจะมากันสองคนซึ่งมักจะมาชวนผมคุย บางครั้งก็ถือโอกาสเปลี่ยนบรรยากาศการเมาสุราแล้วค้างด้วยหนึ่งคืน ซึ่งมันเป็นอะไรที่ผมลำบากใจมาก เพราะสาเหตุที่ผมมาอยู่ตรงนี้ก็เพื่อให้ห่างไกลผู้คน
   ถึงผมจะรู้ว่าผมทำงานอะไร แต่ผมไม่เคยรู้เลยว่าข้อมูลที่ผมรับและส่งต่อนั้นคืออะไร ส่วนใหญ่จะมาเป็นตัวเลข หรือไม่ก็เป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษที่เรียงไม่เป็นคำ แต่เอาเถอะ ผมก้ไม่ได้อยากรู้ ดีเสียอีก เพราะหากผมรู้ข้อความ ผมก็จะไม่รู้สึกว่าได้อยู่คนเดียวจริงๆ
   บางคนเมื่อต้องอยู่คนเดียวนานๆ ก็มักหาสัตว์หรือสิ่งของมาใช้แทนเพื่อนคุยแก้เหงา ไม่ต้องบอกคุณก็คงจะเดาได้ว่า ผมไม่ทำอย่างนั้นหรอก

__________

   ฝนตกติดต่อกันมาสี่วันแล้ว หนักบ้าง เบาบ้าง สบับกันไป แต่ที่สำคัญ มันเลยกำหนดวันส่งเสบียงมาแล้วสองวัน ผมเข้าใจว่าคงจะมีอุปสรรคบางอย่างจนไม่สามารถเข้ามาได้ทั้งทางบกและทางอากาศ

__________

   ปกติผมจะทนกับความหิวได้พอสมควร แต่นี่มันนานเกินไปจนทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนเพลีย สัปดาห์หนึ่งแล้วที่เสบียงยังไม่มาส่งสักที และฝนก้ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกเลย ร่างกายที่อ่อนเพลียกับสายฝนที่โปรยปรายทำให้ผมเริ่มรู้สึกเคว้งคว้าง และนับตั้งแต่วันที่ฝนเริ่มตก สัญญาณวิทยุก้ไม่เข้ามาอีกเลย อาจเป็นเพราะบรรยากาศแปรปรวนบดบังสัญญาณก็เป็นได้
   ความเงียบสงัดเยี่ยงนี้สินะคือสิ่งที่ผมเฝ้าถวิลหามาตลอด ไม่มีเสียงที่เกิดจากกระกระทำของมนุษย์ มีแต่เสียงเม็ดฝนกระทบสิ่งต่างๆ เท่านั้นที่สะท้อนกึก้องไปทั่ว

__________

   ทำไมคืนนี้ผมรู้สึกแปลกๆ ฝนกระหน่ำตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่หัวค่ำ ถ้านับตั้งแต่วันแรกที่เริ่มตก นี่มันก็ตกมาติดต่อกันหนึ่งเดือนแล้ว เช่นกัน ไม่มีวี่แววคนส่งเสบียงและสัญญาณวิทยุใดๆ ถ้าคนส่งเสบียงโผล่มาตอนนี้ ผมจะยอมนั่งดื่มพูดคุยกับพวกเขาทั้งคืนเลย ร่างกายที่อ่อนล้าของผมเริ่มหนาวสั่น โสตประสาทผมเริ่มพร่ามัว ได้ยินแต่เสียงฝนก้องไปมาจนผมไม่สามารถแยกแยะได้เลยว่าเสียงไหนคือเสียงจริงกับเสียงที่มันก้องหลอนอยู่ภายใน
   ผมไม่กล้าหลับในสภาพแบบนี้ ได้แต่ฝืนทนอยุ่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ หลายครั้งที่เริ่มเคลิ้มๆ และเปลือกตาเริ่มคล้อยต่ำลง ผมจะมีความรู้สีึกว่าตัวผมกับร่างกายที่กำลังนั่งเอนอยู่นั้นเป็นคนละคน และผมก็จะรวบรวมสมาธิและตั้งสติเพื่อปลุกร่างกายผมให้ตื่น จากนั้นผมถึงกลับมาเป็นคนที่รู้สึกหนาวสั่นและมีเสียงฝนกึกก้องอยู่ในหูเช่นเดิม สภาวะสองอย่างนี้สลับกันไปมาทั้งคืน และแล้วตอนเช้าก็มาถึง เป็นเช้าที่ทำให้ผมได้สติกลับมาอย่างครบถ้วน ลืมความอ่อนเพลียและหนาวสั่นจนหมดสิ้น ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งเมื่อเสียงฝนนั้นหายไปและมีแสงแดดส่งเข้ามาทางหน้าต่าง
   แต่ความยินดีนั้นอยู่ได้เพียงไม่นาน เมื่อผมเอะใจว่าความอ่อนเพลียและอาการหนาวสั่นนั้นไม่ได้หายไป หากแต่ว่าผมไม่รู้สึกอะไรเลยต่างหาก แสงแดดที่ส่องต้องมือผมก็ไม่ทำให้ผมรู้สึกอุ่นได้เลยแม้แต่น้อย ผมรีบหันกลับไปมองที่เก้าอี้ตัวที่ผมลุกมาแล้วก็พบว่าร่างกายผมไม่ได้ลุกมาด้วย มันยังคงนั่งหลับตาอย่างสงบ กอดอกชันเข่าแสดงให้เห็นว่าก่อนที่มันจะหลับไปนั้นมันหนาวแค่ไหน
   ผมคิดอะไรไม่ออกอีกต่อไป รู้แต่เพียงว่านับจากนี้ไปผมจะต้องอยู่คนเดียวจริงๆ เสียแล้ว โลกที่ผมคิดว่าช่างวุ่นวายเสียจริงกลับกลายเป็นโลกที่เงียบเหงาเหลือเกิน และมันคงจะเงียบเหงาอย่างนี้ไปตลอดการ